การเล่นดนตรีเป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่สามารถเปลี่ยนความชอบ
ให้มาเป็นอาชีพได้ซึ่งในสมัยนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอาชีพที่ค่อนข้าง
ได้รับความนิยมและมีการยอมรับมากขึ้นโดยการเล่นดนตรีนั้น
สามารถแตกยอดสายอาชีพไปได้มากมายไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี
อาชีพ ครูสอนดนตรี ศิลปิน และอื่น ๆอีกมาก และแน่นอนว่าบรร
ดานักดนตรีทั้งหลายก็ต้องมีแหล่งหรือร้านขายเครื่องดนตรีที่ตัว
เองชอบไปซื้อและเลือกชมสินค้าเกี่ยวกับดนตรีอย่างแน่นอน
ซึ่งก็อาจจะเจอทั้งร้านแบบที่ถูกใจ ไม่ถูกใจบ้าง อย่างนั้นแล้ววัน
เราเลยมีข้อแนะนำดี ๆในการเลือกหาร้านขายเครื่องดนตรีที่ใช่มา
ฝากกัน


1. เลือกร้านจากยี่ห้อเครื่องดนตรีที่ใช่
เป็นประเด็นแรกที่นักดนตรีอาชีพส่วนหนึ่งชอบใช้ในการหาร้าน
จำหน่ายเครื่องดนตรีที่ถูกใจเพราะว่าร้านขายอุปกรณ์หรือเครื่อง
ดนตรีแต่ละร้านก็จะมีสัญญาตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับดน
ตรีแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันไป อย่างที่เราอาจจะเคยเห็นว่าทำไม
ร้านขายเครื่องดนตรีร้านนี้จึงมีแต่สินค้าดนตรีและเครื่องดนตรียี่ห้อ
นี้เต็มไปหมดแต่ยี่ห้ออื่นกลับมีน้อยหรือไม่มีเลย นั่นก็เป็นเพราะว่า
ข้อตกลงทางการค้าที่ร้านนั้น ๆ ทำเอาไว้ อย่างนั้นแล้วเราก็ต้องเริ่ม
จากดูว่าเราชอบหรือเป็นสาวกอุปกรณ์หรือเครื่องดนตรียี่ห้อใดจาก
นั้นก็ลองไปดูที่ร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเฉพาะ แล้วคุณก็จะเจอ
ร้านขายเครื่องดนตรีที่ใช่ได้ไม่ยากเลย



2. เอาที่ใกล้และสะดวก
โดยส่วนใหญ่แล้วนักดนตรีอย่างเราคงไม่ค่อยได้ซื้อเครื่องดนตรีกัน
บ่อยทุกวันหรือซื้อเป็นประจำสักเท่าไรนักแต่สาเหตุที่เราจะต้องเข้า
ร้านขายเครื่องดนตรีหรือร้านขายอุปกรณ์ดนตรีบ่อย ๆส่วนใหญ่แล้ว
นักดนตรีอย่างเราก็จะเข้าไปเพื่อหาซื้ออุปกรณ์และอะไหล่เครื่องดน
ตรีที่ต้องเปลี่ยนเป็นประจำอย่างเช่นสายกีต้าร์ สายเบส หรือไปซื้อ
อุปกรณ์ในการเล่นที่จำเป็นอย่าง ปิ๊กกีต้าร์ สายสะพายไปจนถึงอุป
กรณ์เสริมจำพวกเอฟเฟคกีต้าร์ ขาตั้งไมค์ เป็นต้นซึ่งถ้าเลือกร้านที่
ถูกใจก็ควรจะต้องอยู่ใกล้และเดินทางไปมาได้สะดวกจะดีกว่าเพราะ
เรื่องราคาถ้าเอามาคิดบวกกับค่าเดินทางต่อให้แพงกว่าอย่างไรก็คุ้ม
ถ้าจะให้ดีก็เอาเป็นร้านที่เปิดเช้าปิดค่ำหน่อยจะดีมากเลยเรียกได้ว่า
เป็นวิธีการเลือกร้านขายเครื่องดนตรีที่ใช่ซึ่งมีประโยชน์สำหรับนักดน
ตรีอย่างเราไม่น้อยเลยอย่างนั้นแล้วก็อย่าลืมนำวิธีที่บอกมานี้ไปใช้กัน
ด้วยล่ะนักดนตรีทั้งหลาย แล้วก็อย่าลืมเล่นดนตรีอย่างมีความสุขด้วยนะ