เมื่อต้นเดือนกันยายน 2561 (2018) ที่ผ่านมา Gibson
เปิดตัวไลน์กีตาร์ใหม่ model year 2019 ซึ่งสำหรับบาง
คนอาจมองว่าไม่ใช่ข่าวใหญ่อะไรเพราะเขาก็เปิดตัวกีตาร์
สเปคใหม่แทบทุกปี แต่สำหรับตัวผมเองรู้สึกว่าน่าสนใจ
กีตาร์ล็อตนี้เกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของแบรนด์
ทั้งสถานการณ์ล้มละลายของแบรนด์และ การปลี่ยนแปลง
ตัวเจ้าของแบรนด์ รวมถึงอาจเป็นการบอกใบ้ถึงความ
เปลี่ยนแปลงบางอย่างที่จะตามมา
ความเป็นมาและสถานะปัจจุบัน
จากที่ CEO Henry Juszkiewicz เจ้าของบริษัท Gibson
Guitars(ในขณะนั้น) ออกมายอมรับกับสื่อเมื่อเดือนกุมภา
พันธ์ 2018 ว่าสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทกำลังร่อ
แร่เต็มทีเนื่องจากมีหนี้ก้อนใหญ่ที่กู้ยืมมาลงทุนแล้วดูท่า
จะชำระคืนเจ้าหนี้ไม่ทันจนถูกเจ้าหนี้กดดันอย่างหนักให้
ลงจากตำแหน่ง ซึ่งทางคุณเฮนรี่และผู้บริหารในขณะนั้น
ก็ได้พยายามเจรจากับเจ้าหนี้ซึ่งเป็นสถาบันทางการเงิน
เพื่อขอประนอมหนี้หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายใน
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คุณเฮนรี่ยื่นคำร้องต่อศาลเป็น
บริษัทล้มละลาย พร้อมทั้งเสนอแผนฟื้นฟูกิจการให้ศาล
ล้มละลายพิจารณาอนุมัติ โดยสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในแผน
ดังกล่าว คือ การเปลี่ยนเจ้าของบริษัทรวมทั้งผู้บริหารจาก
ชุดเดิมที่นำโดยคุณเฮนรี่ (ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นตัวแปรสำ
คัญที่ทำให้แบรนด์ Gibson ต้องมาถึงจุดนี้) เป็นเจ้าของใหม่
และผู้บริหารใหม่แบบยกเซ็ท
คำร้องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลล้มละลาย
เมือง Delaware เป็นเวลา 5 เดือน และแล้วแผนฟื้นฟูกิจการ
ดังกล่าวก็ได้รับความเห็นชอบเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2018 ที่
ผ่านมา และมีผลให้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหาร
ของบริษัท Gibson Brands มีผลทันทีอย่างเป็นทางการ
เริ่มจากคุณเฮนรี่ตกงาน และอีกหลายความเปลี่ยนแปลง
Mr. Henry Juszkiewicz, ex-Gibson Brands’ CEO
latimes.com
ก่อนจะมาเป็น Gibson 2019 model
เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 คุณเฮนรี่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า
Gibson จะกลับมาโฟกัสที่ธุรกิจการผลิตกีตาร์ตามรากเหง้า
ของแบรนด์ และกีตาร์รุ่นต่อๆ ไปจะมุ่งเน้นความเรียบง่าย
ลดการใช้เทคโนโลยีล้ำยุคที่ไม่จำเป็นลง มีความ traditional
มากขึ้น กีตาร์ล็อตใหม่นี้ผ่านการพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน
แล้วโดยใช้เวลาถึง 8 เดือน ซึ่งต่อมาในเดือนกันยายน ผล
งานดังกล่าวก็ได้ฤกษ์เปิดตัว เป็นกีตาร์ Gibson model
year 2019 ซึ่งจะว่าไปแล้ว นี่คือกีตาร์ใหม่รุ่นสุดท้ายที่
เปิดตัวในขณะที่คุณเฮนรี่ยังดำรงตำแหน่ง CEO เพราะ
เพียง 1 เดือนต่อมา ศาลล้มละลายมีความเห็นชอบแผน
ฟื้นฟูกิจการของ Gibson คุณเฮนรี่ก็พ้นจากตำแหน่งนี้ไป
โดยปริยาย
ดังนั้นผมจึงมองว่า กีตาร์ Gibson โมเดล 2019 คือรุ่นที่
เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติและเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของแบรนด์
จากเจ้าของคนเก่ามาสู่คนใหม่ และนับเป็นก้าวแรก
Gibson 2019 หน้าตาเป็นยังไง?
กีตาร์โมเดล 2019 ซึ่งเปิดตัวแบบล็อตใหญ่ถึง 20 รุ่น จึงเกิด
ขึ้นภายใต้แนวคิดดังกล่าว ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคยเป็นเมื่อปี
2015 ที่มากับสารพัดความแฟนซีอย่างลายเซ็น “Les Paul
100” ขยุกขยุยยึกยืออยู่บนหัวกีตาร์
กีตาร์ Gibson 2019 model year มีอะไรเปลี่ยนสเปค มีอะไร
มาใหม่บ้าง ลองดูตัวอย่างครับ แต่สำหรับผมเองในบทความนี้
คงโฟกัสไปที่รุ่น Les Paul Standard และ Les Paul Standard
High Performance เพราะเป็นรุ่นที่ผมติดตามอยู่ และผมมอง
ว่ามันคือรุ่นเรือธงที่ผมคิดว่าเป็นรุ่นบ่งชี้ความเปลี่ยนแปลงของ
กีตาร์กิบสันในแต่ละ model year ได้เป็นอย่างดี
Les Paul Standard 2019
สเปคพื้นฐาน ตรงไหนเปลี่ยนไปจากปี 2018
บอดี้มาฮอกกานีเจาะโพรงกระจายทั่วตัวที่เรียกว่า Ultra-Modern
Weight Reliefไม้ท็อปเมเปิลลายเฟลม เกรด AAAคอมาฮอกกานี
โปรไฟล์อสมมาตร (คือคอฝั่งสาย 6 หนากว่าฝั่งสาย 1) ออกแบบ
มาเพื่อความสบายและความเร็วบอร์ดโรสวูด compound radius
เฟรทผ่านกรรมวิธีแช่แข็งในอุณหภูมิต่ำยิ่งยวด (low cryogenic
treated frets) เพื่อให้โมเลกุลของโลหะเรียงตัวเป็นระเบียบ
ให้ความแข็งแรงกว่าเฟรทปกติอินเลย์ trapezoid วัสดุอะคริลิค
(พลาสติกชนิดหนึ่ง)ลูกบิดล็อกสาย Grover ใบลูกบิดทรง
Keystoneนัท Tektoid ปิคอัพ Burst Bucker Proชุดวงจร DIP
Switch ที่เริ่มมีใช้ใน LP STD HP ปี 2017 สร้างออพชันสารพัด
ตัดคอยล์ กลับเฟส บายพาส แถมปรับตั้งรูปแบบ wiring ได้อีก
หลากหลาย2 volume 2 tone ที่ดึงตัดคอยล์-กลับเฟส-by pass
และปรับตั้งค่าได้ด้วย DIP Switchknobs แบบ top hat สี amber
บริดจ์ Tune-o-Matictoggle switch 3 ทาง มีป้าย switch washer
สีครีม แต่ไม่ได้ติดตั้งมาให้มีปิ๊คการ์ดสีครีม แต่ไม่ได้ติดตั้งมาให้
มี 2 สี
สิ่งท่ีมาใหม่ในปี 2019 สำหรับ LP STD คือเปลี่ยนใบลูกบิด
จากทรง Kidney เป็นทรง Keystone ยกเลิก 4 สี่เก่า และ
เปลี่ยนเป็นสีม่วงไล่โทนฟ้า (blueberry burst) และสีเขียว
อ่อน seafoam green น่าสังเกตว่าปี 2019 ไม่มีออพชันสี
โทน burst แต่อย่างใด
Les Paul High Performance 2019
สเปคพื้นฐาน ตรงไหนที่ต่างจาก LP STD HP 2018
บอดี้มาฮอกกานีเจาะโพรงกระจายทั่วตัวที่เรียกว่า Ultra-
Modern Weight Reliefบอดี้ด้านหลัง ด้านบน ปาดมุม
belly cutไม้ท็อปเมเปิลลายเฟลม เกรด AAA+คอมาฮอก
กานีโปรไฟล์อสมมาตรneck joint แบบเว้าลึก fast-access
heelบอร์ด Richlite compound radius เฟรทผ่านกรรมวิธี
แช่แข็งในอุณหภูมิต่ำยิ่งยวด (low cryogenic treated frets)
เพื่อให้โมเลกุลของโลหะเรียงตัวเป็นระเบียบ ให้ความแข็ง
แรงกว่าเฟรทปกติอินเลย์ trapezoid วัสดุ mother of pearl
(เปลือกหอยมุก)ลูกบิดล็อกสาย Grover Rotomatic ใบลูก
บิดทรง Keystoneนัทไทเทเนียม ปรับได้ปิคอัพ Burst Bucker Pro+
กรอบปิคอัพชุบโครเมี่ยม พร้อมน็อตสำหรับตั้งความสูงของปิคอัพ
ชุดวงจร DIP Switch2 volume 2 tone ที่ดึงตัดคอยล์-กลับเฟส-
by pass และปรับตั้งค่าได้ด้วย DIP Switchknobs แบบ top hat
ใส ไม่มีสีก้าน toggle switch 3 ทางทำจากโลหะกลึงลายตรงปลาย
มาให้เพื่อการยึดเกาะในการใช้งานบริดจ์ Tune-o-Matic แซดเดิล
ทำจากไทเทเนียม
สำหรับ LP Standard เวอร์ชัน “ติดเทอร์โบ” นี้ ในปี 2019
เปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ ตัดคำว่า Standard HP ออกไป เหลือ
เป็นคำว่า Les Paul High Performance (ก็แล้วทำไมไม่
เรียกแบบนี้ซะแต่แรก) ซึ่งผมมองว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะ
อาจช่วยลดความสับสนกับ LP Standard
แต่ถึงจะเปลี่ยนชื่อ เราก็คงต้องเทียบเจ้านี่กับ Les Paul
Standard HP 2018 อยู่ดีนะครับ ความแตกต่างระหว่าง
HP 2018 กับ 2019 นี่จะเยอะกว่าของ Standard ดังนี้ครับ
ลูกบิด – เปลี่ยนเป็นลูกบิดล็อกสายใบ Keystone ธรรมดา
เหมือนของ LP Standard 2019 ลูกบิดตั้งสายอัตโนมัติ
G-Force ไม่มีแล้ว
ฟิงเกอร์บอร์ด – รุ่นใหม่เปลี่ยนจากไม้โรสวูด เป็นวัสดุสังเคราะห์ Richlite สีดำสนิทคล้ายไม้ ebony แบบเดียวกับที่ใช้ใน Les Paul Custom ปีปัจจุบัน
knobs ของปี 2019 เปลี่ยนจากแบบ top hat ชุบโครเมี่ยม เป็นพลาสติกใส
กรอบปิคอัพ (pickup rings) ชุบโครเมี่ยม พร้อมน็อตสำหรับขันตั้งความสูงของปิคอัพเหมือนกีตาร์ติด humbucker ทั่วไป
ซึ่งต่างจากปี 2018 ที่ไม่มีกรอบปิคอัพเลย แต่ติดตั้งลงบนบอดี้โดยตรง (direct mount) และตั้งความสูงปิคอัพด้วยวิธีขันน็อตจากด้านหลังบอดี้แทน ตัวอย่างตามรูปของปี 2018 ตัวสีส้มแดงนี้ครับ
Les Paul Classic
ปีใหม่ใส่ปิคอัพฮัมบัคเกอร์รุ่น 61T/61R Zebra แทนปิคอัพ P90 ที่มาแบบงงๆ เมื่อปีที่แล้ว
gibson.com
SG Standard
ปี 2019 กลับมาพร้อมปิคการ์ดทรง “ค้างคาว” สุดคลาสสิค
จากเดิมปีที่แล้วใช้ปิคการ์ดเหมือน SG 61 เปี๊ยบ สำหรับ
SG Standard 2019 ปิคอัพใช้เซ็ท 490R/490T และโปร
ไฟล์คอเป็น slim taper
gibson.com
SG Standard ’61
อันนี้ผมคิดว่ามันคือ SG 61 Reissue นั่นแหละ แต่ไม่รู้ทำไม
เปลี่ยนชื่อเรียก สเปคของปี 2019 นี้ อย่างแรกก็แน่ละ ใช้ปิค
การ์ดใบเล็กตามที่ 61 ควรจะเป็น (แต่ทำไมยังมีคำว่า Stan
dard ละ) สเปคคร่าวๆ ลูกบิดวินเทจสไตล์ Kluson คอบาง
slim taper บอร์ดโรสวูด ปิคอัพ Burstbucker 61
gibson.com
Flying V
ปี 2019 ก็ยังคอบาง ปิคอัพ Burst Bucker 2 และ 3 เหมือน
ปีที่แล้ว แต่ไม้บอร์ดปรับสเปคจาก granadillo มาเป็นไม้โรสวูด
gibson.com
Explorer
ก็เช่นเดียวกันกับฟลายอิ้งวี คือรุ่น 2019 ถูกปรับสเปคไม้บอร์ด
เป็น rosewood สเปคในส่วนอื่นๆ เช่น ปิคอัพ Burst Bucker
2 และ 3 ยังมีเหมือนปี 2018
gibson.com
Les Paul Junior
โฉมใหม่ ราคาประหยัด เพิ่งเปิดตัวปีนี้ครับ
gibson.com
ES-235 Ebony
รุ่นนี้เปิดตัวใหม่ ใช้พื้นฐานจากรุ่น ES-135 ปิคอัพ Burst Bucker Pro
บอดี้กึ่งกลวง ดูเผินๆเหมือนจะแจ๊ส แต่แรง
gibson.com
อันนี้แค่ตัวอย่าง ยังมีอีกเยอะ รายละเอียดแบบครบทุกรุ่น เว็บไซท์
musicradar.com สรุปไว้ให้แล้ว คลิกอ่านได้ที่นี่ครับ
ลูกบิดอัตโนมัติ G Force หายไปไหน?
เรื่องนี้มองเผินๆ ก็อาจเป็นเพราะเกิดขึ้นตามที่คุณเฮนรี่ออกมา
ประกาศว่ากีตาร์ Gibson รุ่นใหม่ๆจะเริ่ม back to basic มากขึ้น
แต่ผมคิดว่าในความเป็นจริงแล้ว ต่อให้กิบสันยังอยากใช้ลูกบิด
อัตโนมัติ (แม้เป็น option ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจาก
ปัจจุบันกำลังถูกบริษัท Tronical ผู้ผลิตลูกบิดอัตโนมัติดังกล่าว
สัญชาติเยอรมนี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย โดยกล่าวหาว่า
Gibson ค้างชำระค่าวิจัยและพัฒนาลูกบิดดังกล่าว ค่าลิขสิทธิ์
ในการนำนวัตกรรมนี้ไปตีแบรนด์ G-force และค่าอะไรต่อมิ
อะไรต่างๆ รวมมูลค่าความเสียหายที่โจทก์ฟ้องร้องประมาณ
1,500 ล้านบาท คลิกอ่านเรื่องซวยซ้ำซวยซ้อนของ Gibson
เรื่องนี้ได้ที่นี่ครับ ซึ่ง Gibson ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
และปัจจุบัน Gibson อยู่ระหว่างยื่นขอให้ศาลพิจารณายก
คำร้องดังกล่าวของ Tronical
https://www.zzounds.com/item–GIBLPCS15
ไม่ได้มีแต่ผู้ผลิตลูกบิดอัตโนมัติที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย
แต่ยังมีอีกหลาย supplier ที่กำลังฟ้อง Gibson ด้วยข้อ
หาคล้ายกันนี้อยู่ สาเหตุคงเดาได้ไม่ยาก ก็เนื่องจากการ
ขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนักในช่วงสองสามปี
ที่ผ่านมานั่นเอง ดังนั้นสำหรับคนที่อยากได้กีตาร์ Gibson
ติดลูกบิด G-Force ผมเสียใจด้วยนะครับที่ปีนี้มันไม่มีแล้ว
แต่สำหรับคนที่ยี้ๆๆ เจ้าสิ่งนี้อยู่ นี่คงถือเป็นข่าวดีนะครับ
Gibson 2019 ดูแล้วเป็นยังไง?
สำหรับ Gibson Les Paul Standard ที่ผมมักใช้เป็นรุ่น
อ้างอิงเปรียบเทียบนั้น สำหรับเวอร์ชันปกติ (ไม่ HP)
ผมมองว่าก็ไม่ต่างจากโมเดล 2018 มากนักในเรื่องของ
สเปค ก็แค่เปลี่ยนสีใหม่ ส่วนตัว HP นั้น มีการปรับสเปค
ในรายละเอียดหลายอย่าง เช่น ลูกบิดอัตโนมัติ G-Force,
ปิคอัพติดตั้งแบบ direct mount, knobs โลหะชุบโคร
เมี่ยมล้ำๆ แต่สเปคที่โดนวิจารณ์อย่างหนักก็ยังอยู่ เช่น
วงจร DIP ก็ยังอยู่ อีกอย่างการเปลี่ยนวัสดุฟิงเกอร์บอร์ด
จากไม้มาเป็นวัสดุสังเคราะห์ผมก็ไม่แน่ใจว่าแฟนๆมอง
เรื่องนี้ยังไง อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับรุ่น 2018 แล้ว
ผมมองว่าที่ตัดๆไป ก็ช่วยให้ LP HP ค่อยดูเป็นปกติขึ้น
มาหน่อย
ส่วนกีตาร์รุ่นอื่นๆ ของโมเดล 2019 ก็มีการปรับปรับสเปค
ให้ดู “คุ้นเคย” มากขึ้น เช่นเปลี่ยนจากปิคอัพ P-90 มาเป็น
ฮัมบัคเกอร์ หรือปรับเล็กๆน้อยๆ อย่างเปลี่ยนไม้บอร์ด
torrefied granadillo มาเป็นโรสวูด นอกจากนี้ก็มีเปิดตัว
semi โมเดลใหม่ อย่างไรก็ดี เท่าที่มองดูผมคิดว่าในกลุ่ม
กีตาร์รุ่นราคากลางๆ ก็ดูจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง มองดูสบาย
น่าน่าไว้ใจขึ้นกว่าปีที่แล้ว
กีตาร์ล็อต 2019 นี้สร้างกระแสตอบรับที่หลากหลายนะครับ
สื่อหลายสำนักบอกว่านี่แหละคือการเริ่มลดดีกรีความล้ำยุค
ลงมาแล้ว แต่เสียงตอบรับจากสาวกฮาร์ดคอร์ที่มีต่อ LP
Standard 2019 ก็ดูท่าจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่ ประมาณว่า
ต้องเอาไอ้ DIP Switch นี่ออกไปด้วย แล้วไหนจะสีมุ้งมิ้ง
อีก สีซันเบิรสท์ก็ไม่มี ฯลฯ ก็ต่างมุมมองกันไปนะครับ
กีตาร์ Gibson โมเดล 2019 นี้แม้จะเปิดตัวในเดือนกันยา
ยน 2018 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายที่ CEO Henry Juszkiewicz
ยังอยู่ในตำแหน่ง ซึ่งหมายความว่า ว่าอำนาจการตัดสินใจ
ต่างๆ ยังเป็นของเขาตามกฎหมาย แต่ถ้าเราลองย้อนนึกดูดีๆ
ตามข่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ Gibson ยื่นขอล้มละลายและ
ขอศาลพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการนั้น ทางกลุ่มเจ้าหนี้มีดีลกับ
คุณเฮนรี่และผู้บริหารชุดเดิมในขณะนั้นว่า จะให้เงิน 135 ล้าน
เหรียญสหรัฐเพื่อหล่อเลี้ยง operation ของแบรนด์ให้ยังประ
คองตัวเองต่อไปได้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ
(คลิกอ่านได้ที่นี่ครับ) จึงน่าคิดว่ากีตาร์โมเดล 2019 นี้ แม้เกิด
ขึ้นในช่วงที่เขายังมีอำนาจ แต่ก็อาจไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไร
เต็มที่ดังแต่ก่อนอีกต่อไป สเปคต่างๆ จึ่งเริ่ม back to basic
มากขึ้นอย่างที่ผมได้นำเสนอไป
ดังนั้น สเปคต่างๆ ของรุ่น 2019 ก็จะเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง
สู่สามัญที่สาวกรุ่นเก่ารุ่นใหม่คุ้นเคยมากขึ้น คำถามคือ กีตาร์
Gibson โมเดลใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไป จะมีหน้าตาเป็น
อย่างไร ผมเองค่อนข้างจะเชื่อว่ามันจะค่อยๆ ถูกปรับให้ตรง
ความต้องการของแฟนๆทั่วโลกมากขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
แต่ก็เป็นเรื่องของอนาคตนะครับ เจ้าของใหม่และทีมผู้
บริหารชุดใหม่จะนำพาแบรนด์นี้ไปในทิศทางใดคงต้องดู
กันยาวๆ เพราะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าเงินหนึ่งหมื่น
หกพันล้านบาทที่ติดลบไปนั้น จะได้คืนกลับมาเป็นผลกำไร